วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ข่าวการศึกษา

ครูหลักสูตร 5 ปี
ครูหลักสูตร 5 ปี "สอนเทอมนี้"
การศึกษาชาติเริ่มมีความหวัง สพฐ.เตรียมนำครูสายพันธุ์ใหม่หลักสูตร 5 ปี ชุดแรกที่จบปีนี้กว่า 2 พันคนกระจายตาม รร.ต่างๆ ทั่วประเทศ แต่เน้นจัดลงในภูมิลำเนาเดิมของแต่ละคนก่อน คาดได้รับการบรรจุและลงมือสอนเด็กทันช่วงเปิดเทอมใหม่ปีนี้
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการบรรจุข้าราชการครู ในส่วนโครงการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับปริญญาตรี หลักสูตรทุนครู 5 ปี จำนวน 2,041 ราย ซึ่งรุ่นแรกเพิ่งจบการศึกษาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เข้าเป็นครูประจำสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านเกิดของเจ้าตัว ว่า สพฐ.จะขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) แจ้งสาขาวิชาเอกที่แต่ละ สพท.ประกาศรับ มายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สพฐ.จะสรุปข้อมูลว่าแต่ละ สพท.สามารถยังขาดแคลนครูในเอกใด จำนวนเท่าไหร่ จากนั้น สพฐ.จะนำข้อมูลที่ สพท.แจ้งมาขึ้นเว็บไซต์ของ สพฐ.เพื่อให้นักศึกษาตรวจสอบสาขาที่ตัวเองจบว่าตรงกับที่ สพท.ประกาศรับหรือไม่ โดย สพฐ.จะทำเรื่องแจ้ง สพท.ให้เร่งตรวจสอบสาขาที่ขาดภายในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ เพื่อขอให้ สพท.ทำเรื่องเสนอขออนุมัติบรรจุกับ อ.ก.ค.ศ.ไม่เกินวันที่ 16 เม.ย. จากนั้น สพท.แต่ละเขตจะต้องดำเนินการเปิดรับสมัคร โดยจะใช้วิธีสอบสัมภาษณ์ในการคัดเลือก เพื่อให้สามารถบรรจุครูได้ทันภายใน วันที่ 15 พ.ค. พอดีกับช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 สำหรับศึกษาจากทุนครู 5 ปี จำนวน 2,041 ราย สพฐ.จะเน้นกระจายไปยังภูมิลำเนาเดิมของนักศึกษา แต่หาก สพท.ที่นักศึกษาอยู่ไม่มีอัตราครูในวิชาเอกที่นักศึกษาจบออกมา ก็ขอให้ดูในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม สพฐ.พยายามจะเกลี่ยเด็กให้สามารถลงในภูมิลำเนาใกล้บ้านให้ได้มากที่สุด จึงขอให้แต่ละ สพฐ.เร่งตรวจสอบว่าในพื้นที่ของตัวเองยังขาดแคลนครูในวิชาเอกหรือสาขาใด อยู่ และให้แจ้งมายัง สพฐ.เพื่อขออัตรากำลังกับ อ.ก.ค.ศ.ต่อไป "อยากให้ สพท.พยายามดึงเด็กที่จบจากโครงการนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าเด็กเหล่านี้ถือเป็นความหวังในการพัฒนาการศึกษา ส่วนตัวนักศึกษาเองต้องรีบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเพื่อรอเข้ารับการคัด เลือกต่อไป" คุณหญิงกษมากล่าว นอกจากนั้น สพฐ.ยังเตรียมเปิดสอบบรรจุบุคคลทั่วไปบรรจุเป็นครูในปี 2552 ด้วย โดยมีเขตพื้นที่การศึกษาจำนวน 24 เขต ขอเปิดสอบครูใน 36 วิชา แต่ยังไม่ทราบยอดรวมจำนวนครูที่จะรับ ทั้งนี้ทาง สพฐ.ขอให้เขตพื้นที่ที่จะเปิดสอบครูเร่งขออนุญาต อ.ก.ค.ศ.เพื่อออกประกาศรับสมัครภายใน 16 เม.ย.เช่นกัน แต่ขั้นตอนการสอบบรรจุบุคคลทั่วไปเป็นครูนั้น มีขั้นตอนต่างๆ กินเวลามากกว่าการรับนักเรียนทุน 5 ปีเป็นครู เพราะฉะนั้นคาดว่า ครูใหม่กลุ่มนี้จะบรรจุได้ในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ปี 2552 เป็นปีที่ สพฐ.จะสามารถบรรจุครูใหม่ได้มาก เพราะได้อัตราเออร์ลีรีไทร์คืนมา 12,039 คน และได้อัตราเกษียณตามปกติคืน 5,139 คน.

เชิญเที่ยวงานมหกรรมการศึกษา ปี 2552

งานมหกรรมการศึกษา ปี 2552

ขอเชิญร่วมงานและทำข่าวงานมหกรรมการศึกษา ปี 2552
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมจัดมหกรรมการศึกษา ประจำปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำหลักสูตรที่เปิดสอนในสถาบันการศึกษาทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ เส้นทางความก้าวหน้าของสาขาอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะสาขาที่เป็นความต้องการในอนาคต ข้อมูลของแหล่งทุนจากทั่วโลก และที่สำคัญคือ กิจกรรมการแนะแนวจากครูและรุ่นพี่จากทุกมหาวิทยาลัยเพื่อให้สามารถเลือก เรียนในหลักสูตรและสาขาที่เหมาะสมกับความสามารถและความชอบของตัวนักเรียน ในงานครั้งนี้ สกอ.ได้จัดนิทรรศการนำเสนอการดำเนินงานที่รองรับปีแห่งคุณภาพการอุดมศึกษา ไทย และแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี พร้อมทั้งนิทรรศการจากหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจ สหกิจศึกษา มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ศูนย์พัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ตลอดจนคลินิกแอดมิชชั่น โดยมีวิทยากรให้คำแนะนำเพื่อให้นักเรียน นักศึกษา รวมถึงผู้ที่สนใจได้สอบถามอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ มหกรรมการศึกษา ประจำปี 2552 จะจัดขึ้นในวันที่ 3-5 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00–20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 4-5 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กทม.

"Google" ฉลาดได้อีก!!

"Google" ฉลาดได้อีก!!

ฉลาดขนาดนี้แล้ว กูเกิล (Google) ยังฉลาดเพิ่มขึ้นได้อีก ล่าสุดเขย่าโลกสืบค้นข้อมูลออนไลน์ครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว 3 บริการใหม่รวดเดียว หนึ่งคือการเพิ่มเนื้อหาจากเครือข่ายสังคมหลากหลายค่ายที่มีจุดแข็งเรื่องการอัปเดทตลอดเวลาทุกนาทีมาแสดงไว้ที่หน้าผลการค้นหาด้วย ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของกูเกิลในรอบหลายปี สองคือบริการ "เฟเวอริตเพลส (Favorite Places)" บริการค้นหาทางโทรศัพท์มือถือจากรหัส QR code ที่กูเกิลเล่นง่ายๆด้วยการส่งป้ายรหัสให้ผู้มีธุรกิจติดไว้ที่หน้าร้านเพื่อให้ผู้ผ่านไปมาถ่ายรูปเพื่อหาข้อมูลก่อนตกลงใจเข้าร้าน สามคือ "กูเกิล ก็อกเกิล (Google Goggle)" แอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้เพียงถ่ายภาพสิ่งของหรือสถานที่ที่ต้องการแล้วส่งไปให้กูเกิลดู เป็นที่มาของคำว่า "กูเกิลมีดวงตาแล้ว"

***บอกลาข้อมูลเก่า เบื้องหลังการยกตัวเองเป็นบริการสืบค้นข้อมูลเรียลไทม์ของกูเกิลคือเนื้อหาที่ถูกอัปเดททุกวินาทีบนเฟสบุ๊ก (Facebook), ทวิตเตอร์ (Twitter) และมายสเปส (MySpace) โดยกูเกิลให้คำจำกัดความคุณสมบัติใหม่นี้ว่า real-time search stream ซึ่งทำให้กูเกิลสามารถทำดัชนีคอนเทนท์สดใหม่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้กูเกิลไม่ต้องจมอยู่กับข้อมูลเก่าเก็บอย่างที่ผ่านมา จุดนี้ผู้ใช้กูเกิลที่ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับงานอีเวนต์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนั้นจะได้รับประโยชน์มาก เนื่องจากผู้ใช้จะได้รู้ว่าชาวเน็ตรายอื่นๆบรรยายความเคลื่อนไหวของงานไว้อย่างไร ข้อความทวีตใดบ้างที่น่าสนใจ รวมถึงข่าวสั้นและบล็อกที่เพิ่งโพสต์ขึ้นสู่อินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถเลือกผลการสืบค้นล่าสุดหรือ "Latest results" ได้จากเมนูสืบค้นของกูเกิลเพื่อชมผลลัพท์เฉพาะที่เป็นเนื้อหาที่อัปเดทด่วนจากเครือข่ายสังคม เมนู Latest results สามารถใช้งานได้ทั้งบนไอโฟนของแอปเปิล (iPhone) และสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) โดยกูเกิลระบุว่าจะเริ่มให้บริการในทุกภูมิภาคทั่วโลกภายในสัปดาห์นี้เป็นภาษาอังกฤษ นอกจากการติดอาวุธให้บริการเสิร์ช กูเกิลยังเสริมแกร่งบริการค้นหาในท้องถิ่นด้วยบริการชื่อ Favorite Places บริการนี้ถูกมองว่าไม่มีความซับซ้อนแต่จะเป็นประโยชน์มากทั้งในแง่เจ้าของธุรกิจและผู้บริโภค

***เสิร์ชก่อนเข้าร้าน หลักการง่ายๆของบริการ Favorite Places คือ กูเกิลจะส่งสติกเกอร์ติดกระจกให้กับร้านค้าในท้องถิ่นที่ถูกสืบค้นมากที่สุดในกูเกิลและกูเกิลแมปส์ (Google Maps) จำนวน 100,000 อันดับแรก สติกเกอร์ดังกล่าวไม่ใช่สติกเกอร์ธรรมดาแต่เป็นสติกเกอร์ภาพ QR code หรือที่เรียกกันว่าบาร์โค้ด 2 มิติ ประโยชน์จะเกิดขึ้นทันที่ที่ผู้ใช้เดินผ่านร้านที่เห็นสัญลักษณ์นี้ แล้วลงมือถ่ายภาพรหัส QR code เพื่อเสิร์ชในกูเกิล เพราะผู้ใช้จะได้อ่านข้อมูลรีวิวร้าน และได้รับคูปองส่วนลดก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ซึ่งหากเข้าไปแล้ว ก็สามารถย้อนกลับมาให้คะแนนร้านหรือ"ให้ดาว"ได้ในอนาคต ผู้ใช้สามารถอ่านรหัส QR code ได้จากโปรแกรมอ่านบาร์โค้ดซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายละเอียดเงื่อนไขการให้บริการนี้จากกูเกิล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มชิมลางในสหรัฐฯก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่นที่กูเกิลเปิดบริการค้นหาธุรกิจในท้องถิ่น

***ส่งรูปให้กูเกิลดู บริการใหม่จากกูเกิลที่ทุกคนให้ความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น Google Goggles ได้รับคำจำกัดความว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาแบบเสมือนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ยังเป็นส่วนหนึ่งของหน้าเว็บ Google Labs ซึ่งแปลว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา Google Goggles จะทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลออนไลน์ได้ด้วยการถ่ายภาพ ทั้งหน้าปกหนังสือ ฉลากไวน์ หน้าปกแผ่นซีดี สถานที่สำคัญ ฯลฯ แน่นอนว่าเป้าหมายของกูเกิลคือการขยายให้ครอบคลุมภาพถ่ายทุกประเภท เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกรู้สึกว่ากล้องดิจิตอลนั้น แท้จริงแล้วก็คือเมาส์คอมพิวเตอร์ในโลกแห่งความจริ'ง นอกจากดวงตา กูเกิลยังมีหูอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยเปิดบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ด้วยเสียงมากนานกว่า 1 ปี แต่ล่าสุดกูเกิลพัฒนาให้ผู้ใช้ชาวญี่ปุ่นและจีนสามารถค้นหาข้อมูลด้วยเสียงได้ด้วย พร้อมกับปรับให้การแสดงผลการสืบค้นเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถทดลองใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 1.6 ขึ้นไป

การค้นหาด้วยภาพนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ก็จริง แต่มักเป็นบริการค้นหาภาพเท่านั้น (ใช้ภาพค้นหาภาพ) โดยกูเกิลนั้นเปิดตัวฟีเจอร์"ค้นหาภาพที่คล้ายกัน"ไปแล้ว หรือเว็บไซต์อย่าง GazoPa.com ที่เปิดให้ผู้ใช้อัปโหลดภาพที่มีอยู่ในเครื่อง เพื่อให้ระบบแสดงผลการค้นหาภาพที่ใกล้เคียงกับภาพต้นแบบมากที่สุด ปัจจุบัน กูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดค้นหาข้อมูลออนไลน์ทั่วโลกราว 65% การร่วมมือระหว่างเสิร์ชเอนจิ้นของไมโครซอฟท์อย่างบิง (Bing) และยาฮู (Yahoo) ทำให้ทั้งสองมีส่วนแบ่งรวมกันราว 30%

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

นวัตกรรมการศึกษาคณิตศาสตร์

เนื้อหา
1. ความหมายของนวัตกรรม
2. ประเภทของนวัตกรรม
3. หลักการพิจารณาเพื่อตัดสินใจนำนวัตกรรมมาใช้
4. กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน

แนวคิด
1. นวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาและพัฒนางานด้านการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้น
2. นวัตกรรมการเรียนการสอนอาจจะแสวงหามาได้โดยการคิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือนำของเดิมที่เคยใช้ได้ผลดีจากที่อื่นมาใช้โดยมิได้ดัดแปลงเลย หรือนำมาใช้โดยปรับปรุงบางส่วน หรือนำของเดิมที่เคยใช้ในอดีตแต่ไม่ได้ผลมาใช้ใหม่
3. กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นกระบวนการที่จะช่วยให้ได้นวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้
4. กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน เริ่มจากการศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง คิดและวางแผนสร้างนวัตกรรม สร้างนวัตกรรม ทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม และปรับปรุงนวัตกรรม

วัตถุประสงค์
เมื่อศึกษาเอกสารใบความรู้ 2 เรื่องการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอนจบแล้ว ผู้ศึกษาเอกสารใบความรู้จะเกิดพฤติกรรม ดังนี้
1. บอกความหมายของนวัตกรรมและนวัตกรรมการเรียนการสอนได้
2. จำแนกประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอนได้
3. บอกเกณฑ์การพิจารณานวัตกรรมได้
4. บอกกระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอนได้
5. ใช้กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน คิดค้นนวัตกรรมมาใช้พัฒนางานสอนได้


การวิเคราะห์จุดที่จะพัฒนาทำให้ทราบว่าปัญหาคืออะไร น่าจะสาเหตุมาจากกระบวนการหรือปัจจัยใด ขั้นต่อไปเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพราะการคิดค้นนวัตกรรมที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาและพัฒนางานนั้นจะต้องมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพอย่างแท้จริง จึงจะสามารถแก้ปัญหาหรือพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จได้
ในอดีตที่ผ่านมาพบว่ามีครูเป็นจำนวนมากที่จัดการเรียนการสอนตามความเคยชิน โดยไม่ได้คิดริเริ่มที่จะใช้วิธีหรือเทคนิคการสอนใหม่ๆ หรือคิดค้นและสร้างสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆขึ้นมาใช้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าครูบางส่วนยังไม่เข้าใจความหมายของนวัตกรรม ตลอดจนไม่ทราบ ไม่เข้าใจวิธีการสร้างและพัฒนานวัตกรรมก็ได้


นวัตกรรมคืออะไร
นวัตกรรม หมายถึง วิธีการ เครื่องมือ หรือ สื่อใหม่ๆ ที่ทำให้งานหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าวิธีการ เครื่องมือหรือสื่อใหม่ๆ นั้น จะเคยใช้ที่อื่นได้ผลดีมาแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในที่ใหม่ ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรม(สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. 2534 : 39)
นวัตกรรม หมายถึง สิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการใหม่ๆ หรือปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสม โดยมีการทดลองหรือพัฒนาจนเป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะมีผลดีในทางปฏิบัติ (สวัสดิการสำนักงาน ก.ค. 2542 : 46)
นวัตกรรม (Innovation) มักเน้นไปที่การสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีระเบียบระบบ(planned change) การคิดค้น การแสวงหา ปรับปรุง หาวิธีการขึ้นใหม่ (โกวิท ประวาลพฤกษ์กมล ภู่ประเสริฐและสงบ ลักษณะ. ม.ป.ป. : 45)


นวัตกรรมการเรียนการสอนคืออะไร
นวัตกรรมการเรียนการสอน หมายถึง วิธีการจัดการเรียนการสอน หรือสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆที่นำมาใช้แล้วทำ ให้คุณภาพและประสิทธิภาพของการเรียนการสอนสูงขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าวิธีการหรือสื่อนั้นจะได้มาจากการที่ครูคิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือดัดแปลงปรับปรุงวิธีการหรือสื่อเดิมที่เคยใช้แล้ว หรือนำวิธีการหรือสื่อที่ใช้ได้ผลจากที่อื่นมาดัดแปลง หรือใช้เต็มรูปโดยไม่ดัดแปลงก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนเช่นกัน(สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. 2534 : 39)
การที่จะตัดสินใจว่าวิธีการจัดการเรียนการสอน หรือสื่อการเรียนการสอนที่ครูได้คิดค้นและสร้างขึ้นใช้นั้นเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ ให้พิจารณาจากข้อบ่งชี้และตัวอย่างต่อไปนี้
1. การจัดการเรียนการสอนที่คิดค้นขึ้นนั้น ใหม่สำหรับโรงเรียนของเรา แม้ว่าจะเก่า
สำหรับโรงเรียนอื่น ก็ถือว่าการจัดการเรียนการสอนที่คิดค้นขึ้นนี้เป็นนวัตกรรม เช่น การที่ครูนำแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนแบบศูนย์การเรียนมาทดลองใช้ในห้องเรียนของตนเอง แม้ว่าการจัดการเรียนการสอนแบบศูนย์การเรียนจะเป็นแนวคิดที่แพร่หลายใช้กันในหลายที่หลายโรงเรียนแล้วแต่ยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับโรงเรียนนี ก็ถือว่าการจัดการเรียนการสอนแบบศูนย์การเรียนเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนนี้

2. การจัดการเรียนการสอนที่คิดค้นขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เคยมีผู้คิดและนำมาใช้แล้ว แต่ใช้ไม่ได้ผลเพราะสภาพแวดล้อมและสิ่งต่างๆ ไม่เอื้ออำนวย แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งแวดล้อมและระบบต่างๆ เอื้ออำนวย จึงได้ฟื้นฟูและนำมาทดลองใช้ใหม่ ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนในขณะนี้ เช่นเดิมครูผู้สอนเคยนำวิธีการจัดชั้นเรียน โดยให้นักเรียนปกครองกันเองมาใช้ในห้องเรียนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะผู้ปกครองไม่เข้าใจหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง ต่อมาเมื่อรัฐบาลมีนโยบายให้มีการเผยแพร่ความรู้และแนวคิดในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการให้นักเรียนปกครองกันเองว่า สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยการปกครองประเทศ และครูเห็นว่าผู้ปกครองมีทัศนคติเกี่ยวกับการปกครองตนเองของนักเรียนเปลี่ยนไป จึงฟื้นฟูนำแนวคิดในการจัดชั้นเรียนโดยให้นักเรียนปกครองกันเองมาใช้ในห้องเรียน

3. การจัดการเรียนการสอนที่คิดขึ้นใหม่ เพราะเกิดมีสถานการณ์ใหม่ที่มีส่วนประกอบต่างๆ รวมกันเป็นระบบใหม่ขึ้น หรือมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาพร้อมกันกับความคิดที่จะพัฒนาการเรียนการสอนพอดี และครูมองเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่นั้นจะช่วยให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุตามเป้าหมายที่ต้องการ เช่น เดิมครูฉุยฉายเคยคิดที่จะจัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียนเรียนไป และสามารถตรวจสอบผลการเรียนของตนไปด้วยพร้อมกัน แต่ครูฉุยฉายไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถหาสื่อการเรียนหรือเทคโนโลยีใดที่สอดคล้องกับแนวคิดของตนมาใช้ได้ ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถใช้ได้ง่ายขึ้น มีสมรรถนะที่สามารถนำมาดัดแปลงใช้ได้สูง ครูฉุยฉายจึงนำแนวคิดของตนมาสร้างเป็นบทเรียนสำเร็จรูปที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ จัดเป็นระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนขึ้นในโรงเรียน

4. การจัดการเรียนการสอนที่คิดขึ้นใหม่ เพราะครั้งหนึ่งเคยนำมาใช้และไม่ได้ผล เช่น ผู้บริหารโรงเรียนไม่เห็นด้วย ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้บริหารโรงเรียนเปลี่ยนทัศนคติไปในทางที่สนับสนุน ครูก็สามารถนำแนวคิดนั้นขึ้นมาทดลองใช้ใหม่ได้ เช่น ครูดำรง มีความคิดที่จะนำเรื่องรูปแบบการฝึกทักษะการทำงานกลุ่มเข้ามาใช้ในโรงเรียนเพื่อฝึกให้นักเรียนได้รู้และสามารถทำงานกลุ่มร่วมกันได้แต่ผู้บริหารโรงเรียนเห็นว่า การสอนของครูในห้องเรียนนั้นได้เน้นให้นักเรียนได้เรียนและทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มอยู่แล้ว ยังไม่จำเป็นที่จะต้องนำเรื่องรูปแบบการฝึกทักษะทำงานกลุ่มมาใช้ในห้องเรียน ครูดำรงจึงไม่สามารถที่จะทดลองเรื่องนี้ได้ ต่อมาผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเปลี่ยนไปเห็นว่าการที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยสอดแทรกเรื่องการเรียนและการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม เข้าไปในการเรียนการสอนปกตินั้นยังไม่เพียงพอ ครูควรต้องฝึกให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องรูปแบบและทักษะการทำงานกลุ่มเพิ่มเติม จึงได้สนับสนุนให้ครูดำรงนำเรื่องรูปแบบการฝึกทักษะการทำงานกลุ่มเข้ามาใช้ในการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียน

5. การจัดการเรียนการสอนที่ครูคิดขึ้นนั้น เป็นความคิดริเริ่มจริงๆ เป็นการคิดขึ้นจากการสังเคราะห์หลักการเรียนการสอน ทฤษฎีการเรียนรู้และประสบการณ์ เป็นแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหม่ และนำมาทดลองใช้ เป็นต้น

นวัตกรรมการเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ โดยครูสามารถคิดได้จาก หลักการสอนทั่วไป หลักการสอนในกลุ่มประสบการณ์ต่างๆ จิตวิทยาการเรียนรู้ ปัญหาในห้องเรียน และการประยุกต์จากประสบการณ์ของครูเอง

ประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2534 : 44 – 45) ได้กล่าวถึงการจำแนกประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอนว่า อาจจำแนกได้หลายประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจำแนกประเภท ได้แก่
1. จำแนกตามผู้ใช้ประโยชน์โดยตรง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นวัตกรรมการเรียนการสอนสำหรับครู และสำหรับนักเรียน
2. จำแนกตามลักษณะของนวัตกรรม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทเทคนิควิธีสอน และประเภทสื่อ
3. จำแนกตามจุดเน้นของนวัตกรรม แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ นวัตกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผลผลิต เน้นเทคนิคกระบวนการ และเน้นทั้งผลผลิตและเทคนิคกระบวนการ
อย่างไรก็ตาม วิธีการจำแนกประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอน ที่เข้าใจได้ง่าย สะดวกต่อการคิดค้น พัฒนา หรือสร้างนวัตกรรม ได้แก่ การจำแนกตามลักษณะของนวัตกรรมซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ประเภทเทคนิควิธีการหรือกิจกรรม เช่น บทบาทสมมติ การสอนเป็นคณะ การสอนแบบศูนย์การเรียน การเรียนเพื่อความรอบรู้ การสอนโดยใช้พี่เลี้ยง การเรียนตามความสามารถ การศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล รูปแบบการฝึกทักษะการทำงานกลุ่ม การสอนความคิดรวบยอดด้วยวิธีอุปมาอุปมัย ฯลฯ
2. ประเภทสื่อการเรียนการสอน เช่น บทเรียนสำเร็จรูป ชุดการสอน ชุดสื่อประสม วิดิทัศน์ สไลด์ประกอบเสียง แผ่นโปร่งใส เกม เพลง ใบงาน บทเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
แม้ว่าการแบ่งประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอนออกเป็นประเภทเทคนิคการเรียนการสอนและสื่อการเรียนการสอนดังกล่าว จะเข้าใจง่ายและมีความสะดวกในการคิดค้นนวัตกรรม แต่ในทางปฏิบัติแล้วไม่ว่าครูจะสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทใด เทคนิควิธีหรือนวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทสื่อการเรียนการสอนก็ตาม ในขั้นตอนการผลิตและการใช้ในห้องเรียนนั้น ส่วนใหญ่จำเป็นต้องผลิตและใช้ร่วมกันทั้งสองประเภท เพราะนวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทเทคนิควิธีการก็จำเป็นต้องมีสื่อการเรียนการสอนประกอบ ในขณะเดียวกันนวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทสื่อการเรียนการสอนก็ต้องนำมาใช้ประกอบเทคนิควิธีสอนเช่นกัน

หลักการพิจารณาเพื่อนำนวัตกรรมมาใช้
การที่จะนำนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้น หรือที่มีอยู่แล้ว มาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนมีหลักการพิจารณา ดังนี้ (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. 2534 : 45)
1. ตรงกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข หรือพัฒนา
2. มีความน่าเชื่อถือ และความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน คือมีผลการทดลอง ทฤษฎี หรือหลักการรองรับ
3. สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้
4. มีหลักฐานยืนยันว่าเคยทดลองใช้ในสถานการณ์จริงแล้ว และสามารถแก้ปัญหาได้

กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน
การแสวงหานวัตกรรมการเรียนการสอนต้องอาศัยพื้นฐานทางทฤษฎีการเรียนรู้ ทฤษฎีการสอน หลักการสอน ผลงานวิจัย หรือประสบการณ์ในการทำงานเป็นหลักอ้างอิง กล่าวคือมีหลักการที่ใช้อ้างอิงได้ว่า การแสวงหานวัตกรรมนั้นๆ ถูกต้อง เหมาะสมตามหลักวิชา น่าเชื่อถือว่า จะสามารถใช้พัฒนางานการเรียนการสอนให้บังเกิดผลดีได้ และนอกจากจะมีทฤษฎีและหลักการหรือผลการวิจัยรองรับแล้ว การแสวงหานวัตกรรมต้องดำเนินการเป็นลำดับขั้นตอนมีการวางแผนล่วงหน้า มีการทดลองใช้และปรับปรุงข้อบกพร่อง จึงจะทำให้ได้นวัตกรรมที่มีคุณภาพ
การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนด้วยกระบวนการวิจัยในชั้นเรียน ได้กำหนดกระบวนการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วยขั้นตอนที่สำคัญ 4 ขั้น ดังนี้

1. ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2. คิดค้นนวัตกรรมและวางแผนสร้างนวัตกรรม
3. สร้างนวัตกรรม
4. ทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
5. ปรับปรุงนวัตกรรม

แนวทางการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนของการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นดังนี้
ขั้นที่ 1 : ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ในขั้นนี้เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ปัญหาและหาจุดที่จะพัฒนา หลังจากที่ครูได้ทราบปัญหาและระบุสาเหตุของปัญหาได้ชัดเจนแล้ว ครูต้องศึกษาหลักการสอน ผลงานวิจัย แนวคิด ทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับจุดที่จะพัฒนา เพื่อนำมาเป็นพื้นฐานในการสร้างนวัตกรรมให้สามารถพัฒนางานจุดนั้นได้อย่างมีประสิทธิผล เช่น ถ้าต้องการปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องการแก้โจทย์ปัญหา ชั้น ป.6 ครูก็จะต้องศึกษาหลักการ แนวคิด เกี่ยวกับการสอนคณิตศาสตร์และโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ที่มีผู้ศึกษาค้นคว้าและทดลองไว้แล้ว นำมาเป็นหลักอ้างอิงในการสร้างนวัตกรรมการสอนคณิตศาสตร์ด้านการแก้โจทย์ปัญหา
การทำเช่นนี้ย่อมทำให้นวัตกรรมที่ครูสร้างขึ้นมีความถูกต้องตามหลักวิชาการ เชื่อถือได้ และมีแนวโน้มว่าจะสามารถพัฒนาสมรรถภาพการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนได้จริง
ขั้นที่ 2 : คิดค้นและวางแผนสร้างนวัตกรรม ก่อนที่จะสร้างนวัตกรรมหรือนำนวัตกรรมใดๆ มาใช้ จำเป็นต้องมีการคิดและวางแผน ไว้ก่อนล่วงหน้าในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการนำนวัตกรรมที่เคยใช้ได้ผลดีจากที่อื่นมาใช้เต็มรูปหรือการนำนวัตกรรมที่เคยใช้ที่อื่นมาเพียงบางส่วน แล้วพัฒนาส่วนอื่นเพิ่มเติม หรือการนำนวัตกรรมในอดีตที่เคยใช้แล้วขึ้นมาใช้ใหม่ หรือการคิดริเริ่มสร้างนวัตกรรมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อให้การใช้หรือการสร้างนวัตกรรมนั้นบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ในการคิดและวางแผนสร้างนวัตกรรม ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์ของนวัตกรรม ผู้สร้างหรือผู้นำนวัตกรรมมาใช้ จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่า จะนำมาใช้หรือสร้างขึ้นเพื่อพัฒนางานจุดใด และต้องการให้บังเกิดผลสำเร็จอย่างไร

2. หลักการและแนวคิดที่เป็นพื้นฐานของนวัตกรรม ผู้สร้างนวัตกรรมจะต้องสร้างโดยอาศัยหลักการและแนวคิดต่างๆ ที่ได้ศึกษาไว้เป็นพื้นฐาน ส่วนผู้ที่นำนวัตกรรมที่มีอยู่แล้วมาใช้จะต้องทราบหลักการที่เป็นพื้นฐานของนวัตกรรมนั้นด้วย เพื่อให้ดำเนินการได้ถูกต้อง เช่นหลักการสอนข้อหนึ่งมีว่า การเสริมแรงบวก หลังจากผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือถูกต้อง จะทำให้ผู้เรียนต้องการกระทำสิ่งนั้นอีกจากหลักการสอนนี้ ครูจึงควรสร้างสื่อการเรียนที่ออกแบบให้ผู้เรียนได้ทราบผลการปฏิบัติโดยทันที หรือออกแบบให้มีการเสริมแรงแก่นักเรียนที่แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่ถูกต้องนั้นอีกหลักการสอนข้อหนึ่งมีว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสามารถของตนเองซึ่งแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความพอใจและมีแรงจูงใจในการเรียน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี
จากหลักการสอนนี้ ครูจึงสร้างชุดการเรียนด้วยตนเองขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแต่ละคน ได้เรียนตามระดับความสามารถของตน ไม่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ทั้งนี้เพราะต้องการให้ผู้เรียนเรียนอย่างมีความสุขและพึงพอใจ ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ตามหลักการสอนที่เป็นพื้นฐาน
3. ขอบข่ายและโครงสร้างของนวัตกรรม เป็นส่วนที่ระบุถึงประเภทของนวัตกรรม ระดับชั้น วิชา ผู้ใช้นวัตกรรม รวมทั้งการกำหนดลักษณะปรากฏของนวัตกรรมว่า ควรประกอบด้วยสิ่งต่างๆ อะไรบ้างที่สังเกตได้ด้วยตา เช่น ชุดการเรียนด้วยตนเอง ประกอบด้วยบัตรเนื้อหา บัตรคำสั่ง ข้อทดสอบ บัตรเฉลย เป็นต้น
4. ลักษณะทางเทคนิคของนวัตกรรม ผู้สร้างนวัตกรรมจะต้องคิดค้นแนวทางใหม่ และสนองไว้ในนวัตกรรม เช่น ถ้าเป็นชุดการสอนจะต้องคิดเทคนิควิธีสอน หรือขั้นตอนของกิจกรรมการสอน ที่จะบรรจุไว้ในชุดการสอน

5. ลักษณะการนำไปใช้และเงื่อนไข ผู้สร้างนวัตกรรมจะต้องวางแผนและกำหนดถึงลักษณะการนำนวัตกรรมไปใช้ไว้ด้วย ซึ่งอาจกล่าวถึงประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือหลายประเด็นตามความเหมาะสม เช่น การเตรียมตัวครู การจัดห้องเรียน การทดสอบ หรือกล่าวถึงเทคนิคเฉพาะของการใช้นวัตกรรม
6. การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม ผู้สร้างควรวางแผนในเรื่องการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมไว้ว่าจะใช้วิธีใด ดำเนินการกี่ครั้ง
นอกจากประเด็นต่างๆ ข้างต้นแล้ว ผู้สร้างนวัตกรรมควรมีการวางแผนด้านอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของนวัตกรรมไว้ด้วย เช่น ด้านงบประมาณ ระยะเวลาในการสร้าง บุคลากรที่ต้องการ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องจัดเตรียม และขั้นตอนการสร้าง

ขั้นที่ 3 : สร้างนวัตกรรม วิธีการและขั้นตอนการสร้างนวัตกรรมแต่ละประเภทย่อมมีความแตกต่างกัน ดังนั้นครูจะต้องศึกษารายละเอียดของนวัตกรรมนั้นๆ เช่น การสร้างนวัตกรรมที่เป็นชุดการสอน อาจสร้างตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. วิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้
2. กำหนดและออกแบบชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
3. ออกแบบสื่อเสริม
4. ลงมือเขียน
5. ตรวจสอบคุณภาพขั้นแรกโดยผู้เชี่ยวชาญ
6. ทดลองในระยะสั้น เพื่อการปรับปรุงเนื้อหา สาระ
7. นำไปใช้ในการพัฒนางาน

ขั้นที่ 4 : ทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพนวัตกรรมการเรียนการสอน เมื่อครูได้สร้างนวัตกรรมตามแผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะนำไปทดลองใช้จริง ต้องทดลองใช้กับกลุ่มย่อยเพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมก่อน เพื่อให้มั่นใจได้ว่านวัตกรรมที่สร้างขึ้นถูกต้องตาม


หลักวิชาและสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์จริงโดยต้องปฏิบัติ ดังนี้

1. ปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญในขณะสร้างนวัตกรรมและให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจผลงานเป็นระยะเพื่อปรับปรุงแก้ไขนวัตกรรมที่สร้างขึ้นให้สมบูรณ์
2. เมื่อสร้างเสร็จแล้ว นำสื่อการเรียนการสอนที่สร้างขึ้นให้นักเรียนและครูอ่านเพื่อตรวจสอบภาษาที่ใช้ในสื่อนั้นว่า เหมาะสมที่จะใช้กับเด็กหรือไม่ เมื่อนักเรียนอ่านแล้วนักเรียนมีความเข้าใจในเรื่องที่อ่านตรงกันหรือไม่ถ้าส่วนไหนนักเรียนอ่านแล้วยังเข้าใจไม่ตรงกัน ก็ปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป
3. นำนวัตกรรมที่สร้างขึ้นไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มย่อยประมาณ 10 คนเพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนการสอนทำได้หลายทาง เช่น

1 ให้ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนตรวจความเหมาะสมของสื่อ นวัตกรรมและความถูกต้องตามหลักวิชาการพัฒนานวัตกรรมและหลักการเรียนการสอน

2 เปรียบเทียบสภาพหรือพฤติกรรมก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมจากการทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มเล็กๆ

3 คำนวณค่าร้อยละของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้จากการทดสอบระหว่างก่อนทดลองและหลังการทดลอง

4 หาประสิทธิภาพของนวัตกรรมโดยใช้สูตร E1/E2

การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สูตร E1 / E2
เมื่อ åX คือ คะแนนรวมการฝึกปฏิบัติระหว่างทาง
åF คือ คะแนนรวมของการทดสอบหลังการใช้นวัตกรรม/สื่อ
E1 คือ การประเมินกิจกรรมระหว่างเรียน
E2 คือ การประเมินกิจกรรมหลังเรียน
A คือ คะแนนเต็มรวมของแบบฝึกหัด
B คือ คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน

A E1 = ´ 100

B E2 = ´ 100

สรุป
การพัฒนางานการเรียนการสอนจำเป็นต้องใช้วิธีที่แตกต่างจากวิธีที่ใช้อยู่เดิม จึงจะทำให้สามารถพัฒนางานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่ อาจเป็นเทคนิควิธีการใหม่หรือสื่อการสอนใหม่ หรือทั้งสองประเภทผสมผสานกัน ซึ่งอาจได้มาโดยครูริเริ่มสร้างขึ้นมาใหม่ นำของเดิมที่เคยใช้ได้ผลดีจากที่อื่น มาใช้เต็มรูปหรือดัดแปลงบางส่วน หรือนำของเดิมที่เคยใช้ในอดีตแต่ไม่ได้ผลมาใช้ใหม่ก็ได้ วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ทั้งหลายเหล่านี้ ถือเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอน
ครูควรแสวงหานวัตกรรมมาใช้แก้ปัญหาหรือพัฒนางานการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการแสวงหานวัตกรรมที่มีขั้นตอนที่น่าเชื่อถือได้ 5 ขั้นตอน คือ ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง คิดนวัตกรรมและวางแผนสร้าง ลงมือสร้างนวัตกรรม ทดลองใช้นวัตกรรมเพื่อหาประสิทธิภาพและปรับปรุงนวัตกรรม ถ้าครูแสวงหานวัตกรรมตามขั้นตอนดังกล่าว จะทำให้ได้นวัตกรรมที่มีคุณภาพ เมื่อนำมาใช้จะสามารถแก้ปัญหาหรือพัฒนางานสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ












วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คลิปวีดิโอการศึกษาทั่วไป2

คลิปวีดิโอการศึกษาทั่วไป1

คลิปวีดิโอการสอนคณิตศาสตร์2

คลิปวีดิโอการสอนคณิตศาสตร์

คลิปวีดิโอการสอนคณิตศาสตร์ ม.4เทอมสอง

คลิปวีดิโอสอนการสแกนไวรัส

คลิปวีดิโอการสอนคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

คลิปวีดิโอการสอนคอมพิวเตอร์เบื้องต้น


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

แผนที่จากศรีราชาไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

แผนที่จากสกลนครไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

แผนที่จากบ้านไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

ข่าวไอที


Jabra : ลำโพงบลูทูธ จาบรา
ลำโพงบลูทูธ บลูทูธ จาบรา (Jabra) สามารถรับสาย วางสาย บังคับการเล่นเพลง และปรับระดับเสียงได้จากตัวลำ โพงฟังก์ชัน ซึ่งเป็นลำโพงบลูทูธ ตัวแรกที่มีระบบวัดทิศทางของเสียง ทำให้ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี มีระบบเอฟเอ็ม ทรานสมิทเตอร์ ช่วยให้ส่งเสียงสนทนา และเสียงเพลงออกทางลำโพงรถยนต์ผ่านสัญญาณคลื่นวิทยุเอฟ เอ็ม ราคา 4,200 บาท.



ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์ 23 พฤศจิกายน 2552

แนะนำคลิปวีดิโอการสอนคณิตศาสตร์

แผนที่กรุงเทพมหานครไปกำแพงแสน


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

เกมส์ฝึกสมองยอดฮิต


โน้ตบุ๊กแบรนด์รองอัดโปรโมชันดุ
วันจันทร์ที่ 02 พฤศจิกายน 2009 เวลา 12:17 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ไอทีดอทคอม - ไอทีดอตคอม
ค่ายโน้ตบุ๊กแบรนด์รอง สู้ยิบตาเตรียมอัดโปรโมชันกันไฟแลบ ชิงตลาดโค้งสุดท้ายของปี "โตชิบา-เลอโนโว-อัสซุส" เตรียมจัดโน้ตบุ๊กไฟติ้งโมเดล ราคาประหยัดประมาณ 15,000 บาท แข่งเจ้าตลาด พร้อมส่งเทคโนโลยีใหม่-โปรโมชันลดแลกแจกแถม-เงินผ่อนประชัน
นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย แผนกสินค้าไอที บริษัทโตชิบาประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมโปรโมชันเข้าร่วมงานคอมมาร์ต 2009 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2552 นี้ โดยมองว่าในงานดังกล่าวนั้นผู้ผลิตจะมีการจัดโปรโมชันช่วงชิงยอดขายกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นงานสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นก็มีแผนจัดโปรโมชันสร้างยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเดิม ซึ่งก็ต้องระบายสินค้าออกไป และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังเปิดตัว คือ Protégé T110 และ T130 ซึ่งใช้ตัวประมวลผลอัลตราโวลเตจ ที่บางเบา สามารถใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีในงานคอมมาร์ต ยังได้นำโน้ตบุ๊กราคาประหยัด ที่ใช้ตัวประมวลผลอินเทลเพนเที่ยม ดูโอคอร์ ราคา 15,900 บาท เข้ามาทำตลาด
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการบัตรเครดิต เพื่อจัดทำโปรโมชันผ่อนชำระ 0% สนับสนุนการขาย ซึ่งขณะนี้พบว่ามีผู้ซื้อนิยมผ่อนชำระมากขึ้น โดยมีสัดส่วนประมาณ 80-90% ของลูกค้าทั้งหมด จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 50% ซึ่งรูปแบบที่บริษัทบัตรเครดิตนำมาใช้ขณะนี้คือ การให้ส่วนลดเพิ่ม 2-5% ซึ่งบริษัทอาจจะร่วมกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตจัดโปรโมชันเพิ่มเติม เช่น ซื้อปีนี้เริ่มผ่อนปีหน้า หรือ ขยายเวลาการผ่อนชำระออกไป สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคนิยมเลือกซื้อมากสุดจะมีราคาตั้งแต่ 23,000-25,000 บาท ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในงานคอมมาร์ตปีนี้นั้นจะสร้างยอดขายเท่ากับปีที่แล้ว คือ 8,000 เครื่อง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ร่วมงานดังกล่าวมา
ขณะที่ นายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัทเลอโนโว ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่างาน บริษัทจะนำโน้ตบุ๊ก ราคาประหยัดเข้ามาทำตลาดคอนซูเมอร์เป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มทำตลาดงานคอมมาร์ต 2 รุ่น คือ รุ่นที่ใช้ตัวประมวลผลอินเทล เพนเที่ยม ดูโอคัล และมีกราฟิกการ์ด 1 รุ่น และเป็นรุ่นที่ใช้ อินเทล เพนเที่ยม ดูโอคัล และใช้หน่วยความจำ ดีดีอาร์แรม 3 อีก 1 รุ่น โดยได้กำหนดราคาขายไว้ 14,900 บาท ทั้งนี้ราคาที่วางจำหน่ายสินค้าทั้ง 2 รุ่นไม่ได้ต่ำกว่าคู่แข่ง ที่วางขายในราคา 13,900 บาท อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบคุณสมบัติการทำงานของเครื่องแล้วสินค้าเลอโนโวมีสเปกการทำงานสูงกว่า โดยคาดว่าสินค้าทั้ง 2 รุ่น จะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตขึ้น 20% นอกจากนี้ในงานคอมมาร์ตบริษัทยังได้เตรียมวางตลาดโน้ตบุ๊กไอเดียแพ้ด Y550P ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ใช้ตัวประมวลผลอินเทล คอร์ไอเซเว่น หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ราคา 47 ,900 บาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมโปรโมชันลดแลกแจกแถม พร้อมแคมเปญเงินผ่อน 0% ไว้จูงใจผู้ซื้อภายในงาน
"เดิมเราโฟกัสการทำตลาดสินค้าระดับกลางกับบน แต่บนนั้นกลุ่มลูกค้าค่อนข้างจำกัด ถ้าหากเราต้องการขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ก็ต้องมีสินค้าราคาต่ำกว่า 15,000 บาท เข้ามาทำตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้คู่แข่งในตลาด 2 รายใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาดมีสินค้าราคา 13,900 บาท ทำตลาด อย่างไรก็ตามขณะนี้เรามีความพร้อมในเรื่องสินค้า ซึ่งเมื่อเทียบสเปกกับราคาแล้วคุ้มค่ากว่าคู่แข่ง จึงได้ตัดสินใจขยายการทำตลาดไปยังตลาดล่าง"
ขณะที่นายพรเทพ วัชระอำนวยผล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์หลักในงานคอมมาร์ต 2009 คงมุ่งเน้นกลยุทธ์ลดแลกแจกแถม และโปรโมชันผ่อน 0% เป็นหลัก ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลต์หลัก คงอยู่ที่โน้ตบุ๊กที่ใช้ตัวประมวลผล ที 6000 มีการ์ดจอ ราคาประมาณ 20,000 บาทต้นๆ และโน้ตบุ๊ก อัสซุส รุ่น X8AC-VX009X ใช้ตัวประมวลผลอินเทล เซลเลอรอนเอ็ม จอ 14 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์ 320 กิกะไบต์ หน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ วางราคาจำหน่ายในงาน 12,900 บาท จากเดิม 13,900 บาท ซึ่งคิดว่าราคาดังกล่าวจะเป็นราคาโน้ตบุ๊กที่ถูกสุดภายในงาน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,475 01 พ.ย. - 04 พ.ย. 2552

Written by :
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ